Home » แฟ้มข่าว อสังหาริมทรัพย์ » 'ตลาดบ้านจัดสรรชะงัก' น้ำท่วมสบช่อง บ้านหลังที่ 2 'คอนโดมิเนียม'ในทำเลที่มีความเสี่ยงต่ำ

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
'ตลาดบ้านจัดสรรชะงัก' น้ำท่วมสบช่อง บ้านหลังที่ 2 'คอนโดมิเนียม'ในทำเลที่มีความเสี่ยงต่ำ

วันที่ 9 พฤศติกายน 2554 : อสังหาริมทรัพย์

"จัดสรร"ยอดขายชะงัก น้ำท่วมสบช่อง..บ้านหลังที่ 2

        โจนส์แลงก์ลาซาลล์ เผยผลกระทบน้ำท่วม ทำตลาด "บ้านจัดสรร" ทำเลน้ำท่วมชะงักทันที คาดดีมานด์เพิ่มขึ้นในทำเลที่ไม่เสี่ยง

        นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กิจกรรมการซื้อขายบ้านในย่านที่น้ำเข้าท่วมแล้วหยุดลงอย่างสิ้นเชิง ส่วนการซื้อขายบ้านในย่านที่น้ำยังไม่เข้าท่วมมีสภาพใกล้เคียงกัน คือผู้ซื้อส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอดูผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม

        ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะดีกว่า เนื่องจากคนทั่วไปมองว่าอสังหาริมทรัพย์อาคารสูง น่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า แต่สำหรับโครงการคอนโดที่ตั้งอยู่ในทำเลที่น้ำเข้าท่วมแล้วขณะนี้ กิจกรรมการขาย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

       “หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า ผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในขณะนี้ อาจพิจารณาซื้อคอนโดมิเนียมในทำเลที่มีความเสี่ยงต่ำเป็นบ้านหลังที่สอง แต่เชื่อว่าน้ำท่วมที่เกิดขึ้นปีนี้ จะไม่ถึงกับทำให้อุปสงค์หรือความต้องการตลาดบ้าน เปลี่ยนไปอยู่ที่ตลาดคอนโดมิเนียมแทน” นางสุพินท์ ย้ำ

        ส่วนตลาดโรงแรมและที่พักอาศัยอาศัยให้เช่า มีทั้งที่ได้รับผลกระทบบวก และผลกระทบเชิงลบไปพร้อมๆ กัน นายแอนดรูว์ แลงดอน รองประธานบริหารอาวุโส โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์ ในเครือของโจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่า โรงแรมในกรุงเทพฯ มียอดเข้าใช้ห้องพักลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจ ได้เลื่อนแผนการเดินทางออกไป

       แต่ขณะเดียวกันก็พบว่า ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มีความต้องการใช้บริการห้องพักระยะสั้นเพิ่มขึ้น จากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่บ้านถูกน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังพบว่า ธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เช่น พัทยาและหัวหิน มียอดการเข้าใช้บริการห้องพักพุ่งสูงขึ้น จากการที่มีชาวกรุงเทพฯ หนีน้ำท่วมออกไปหาที่พักอาศัยชั่วคราว

ศูนย์ข้อมูลชี้โครงการต้องหั่นราคาสู้

        นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า หลังเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ผู้ซื้อจะมีกำลังซื้อน้อยลง และหันไปเน้นการซ่อมแซมบ้านมากกว่าการซื้อบ้านใหม่ ทำให้ธุรกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ลดลงกว่าครึ่งโดยคาดว่าอาจเป็นระยะเวลาถึง 6 เดือน สำหรับผู้ที่ยังมีแนวความคิดจะซื้อบ้าน ก็จะหลีกเลี่ยงการซื้อบ้านในทำเลที่เกิดน้ำท่วม ผู้ประกอบการจึงควรหลีกเลี่ยงการเปิดโครงการใหม่ในทำเลที่เกิดน้ำท่วม เช่น บางบัวทอง

      "สำหรับโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และยังขายไม่หมดในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม ทางผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องออกนโยบายลด-แลก-แจก-แถมอย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาสนใจซื้อ นอกจากนั้นยังต้องสร้างความเชื่อมั่น และทำแผนป้องกันน้ำท่วมให้ดี ส่วนโครงการที่มีผู้อยู่อาศัยแล้ว ต้องดูแลลูกบ้านให้ดี" ผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวและว่า หลังน้ำลด จะสามารถแบ่งกลุ่มประชาชนออกเป็น 3 กลุ่ม

  1. กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่บ้านเสียหายไม่มาก ยังพอซ่อมแซมเองไหว กลุ่มนี้จะไม่ซื้อบ้านใหม่ แต่จะซ่อมแซมเพียงอย่างเดียว
     
  2. กลุ่มที่ 2 บ้านเสียหายมาก หากซ่อมแซมต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อาจตัดสินใจขายบ้านทิ้ง สนใจซื้อบ้านราคาถูกในบริเวณเดิม เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน
     
  3. กลุ่มที่ 3 บ้านอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม แต่ยังอยากเก็บบ้านไว้และมีกำลังซื้อ จะหันซื้อบ้านหลังที่สอง ในจังหวัดใกล้เคียง ที่น้ำไม่ท่วม เช่นที่จังหวัดชลบุรี

       แม้จะมีความต้องการบ้านหลังที่สองเกิดขึ้น  แต่ ผอ.ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ระบุว่าคงไม่ได้ช่วยให้ยอดขายที่อยู่อาศัยในจังหวัดใกล้เคียงเหล่านั้นเพิ่มขึ้นมาก และเชื่อว่าจากนี้ไป 6 เดือน ไม่ว่าทำเลใดก็ไม่เติบโตขึ้น เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่มีกำลังซื้อ