Home » อสังหาฯ บ้าน คอนโด ที่ดิน » บ้าน อาคาร ที่อยู่อาศัย ประเภทต่างๆ

การบริหาร/ความรู้ทั่วไป

Web Design by Softbiz+


ว็บนี้ สร้างด้วย Joomla! 1.5 โดย ทีมงานซอฟท์บิส+ update11.11.2014

 
บ้าน อาคาร ที่อยู่อาศัย ประเภทต่างๆ

              เนื่องจาก บ้าน อาคาร ที่อยู่อาศัย มีอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทก็มีลักษณะเฉพาะตัวเหมาะสมกับการลงทุน แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ลงทุนใน บ้าน และ ที่ดิน จึงมีความจำเป็นต้องตัดสินใจ เลือกประเภทบ้านให้เหมาะสม และสอดคล้องกับ สถานการณ์ด้วย ทั้งนี้บ้านที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจแยกออกได้เป็น 8 ประเภทด้วยกันคือ


1. บ้านเดี่ยว  (Single-Family Homes)

เป็น แบบบ้านที่อยู่อาศัยที่มีคนนิยมมากที่สุด ลักษณะเป็นบ้านตั้งอยู่ เดี่ยว ๆ มีเนื้อที่กว้างขวางรั้วรอบขอบชิด ทำให้ผู้อาศัยได้บรรยากาศของ ความเป็นส่วนตัว และห่างไกลจากการรบกวนของเพื่อนบ้าน บ้านชนิดนี้ปกติแล้จะ มีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันสามารถตกแต่งได้ในรูปแบบต่าง ๆ ตามฐานะและรสนิยม ของผู้เป็นเจ้าของ

 

 

2. อาคารพาณิชย์หรือตึกแถว (Shop Houses)

เป็น แบบบ้านอีกลักษณะหนื่งที่ได้รับความนิยมมากในแถบชุมชนเมือง เพราะนอกจากจะ ใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้แล้ว ยังสามารถดัดแปลงให้เป็นสถานที่ทำการค้าหรือ ธุรกิจได้ด้วย อาคารแบบนี้มักมีเนื้อที่แคบ จึงนิยมก่อสร้างหลาย ๆ ชั้น

 

 

 

 

3. ทาวน์เฮาส์ (Town house)

เป็น บ้านที่มีลักษณะเหมือนตึกแถวบ้านประเภทนี้มักตั้งอยู่ในเมือง ต่างกับตึกแถว ตรงที่มีบริเวณหน้าบ้านจัดเป็นสวนขนาดย่อมและจอดรถได้ ทาวน์เฮ้าส์ส่วนใหญ่ มักเป็นแบบ 2-3 ชั้น ใช้เนื้อที่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นที่ในเมืองและมี ราคาแพง
 

 

 

 

4. แฟลตหรืออาพาร์ตเม้นต์ (Flat or Apartment)

เป็น ที่อยู่อาศัยที่มีลักษณะคล้ายอาคารพาณิชย์ คือมีหลาย ๆ ชั้น แบ่งเป็นหลาย ยูนิต วัตถุประสงค์เพื่อให้เช่า ปกติแล้วที่อยู่อาศัยแบบนี้ ค่าเช่ามัก สูง เพราะตั้งอยู่ในทำเลที่ดีและมีสิ่งอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยครบ
 

 

 

 

5. คอนโดมิเนียม (Condominium) หรือ อาคารชุด

เป็นอาคารที่มีหลายชั้น แต่ละชั้นแบ่งเป็นห้องชุดจำนวนมาก ซึ่งภาย ในห้องประกอบด้วยห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนำ ฯลฯ อาคารชุดแต่ละแห่งมักมีสิ่ง อำนวยความสะดวกครบถ้วน โดยทั่วไปแล้วอาคารชุดจะตั้งอยู่ในกลางเมือง หรือใน ที่ชุมชนที่มีการคมนาคมสะดวก อาคารชุดมีหลายประเภท ทั้งประเภทที่อยู่อาศัย (Residential Condominium) และประเภทสำนักงาน (Office Condominium) ผู้ซื้ออาคารชุดจะมีกรราสิทธิ์เป็นเจ้าของอาคาร ชุดของตน และมีกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินส่วนกลาง อันได้แก่ ห้องโถง ที่จอด รถ ลิฟต์ สนาม และทางเดิน เป็นต้น ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สินส่วน กลาง ผู้เป็นเจ้าของอาคารชุดจึงต้องร่วมกันรับผิดชอบ
 

6. สหกรณ์เคหสถาน (Cooperative Housing)

เป็น ที่อยู่อาศัยแบบสหกรณ์ ลักษณะเป็นอาพาร์ตเมนต์เพล็กซ์ คล้าย คอนโดมิเนียม ที่อยู่อาศัยประเภทนี้ เกิดขึ้นโดยผู้ต้องการที่อยู่อาศัย จะ ลงทุนซื้อหุ้นของสหกรณ์และสหกรณ์จะนำเงินนั้นไปซื้อที่ดินและสร้างอาคารให้ สมาขิกได้เช่าอยู่ สมาชิกต้องช่วยกันออกค่าบำรุงรักษา ซ่อมแซม ค่า ภาษี สมาชิกแต่ละหน่วย มีสิทธิออกเสียงได้หนึ่งเสียงในการเลือกตั้งกรรมการ บริหาร
 

 

 

7. บ้านเคลื่อนที่ (Mobile Home)

บ้าน ชนิดนี้ ในเมืองไทยมักไม่ค่อยคุ้นเคยกัน แต่ในต่างประเทศมีมานานแล้ว ลักษณะ เป็นบ้านที่สร้างสำเร็จรูปจากโรงงาน และย้ายมาติดตั้งในทำเลที่กำหนดให้เป็น พื้นที่ของบ้านเคลื่อนที่ ผู้ที่เริ่มตั้งครอบครัวใหม่นิยมอยู่บ้านเคลื่อน ที่ เพราะราคาไม่แพงนัก บางคนก็ใช้บ้านเครื่องที่เป็นสำนักงานเคลื่อน ที่ เช่น ผู้รับเหมาเวลาไปรับเหมาก่อสร้างตามแหลงรับเหมาต่าง ๆ บ้านแบบนี้สามารถขับเคลื่อนหรือพ่วงกับรถคันอื่นได้ ลักษณะภายในมีเครื่อง อำนวยความสะดวกเหมือนบ้านทั่วไป บ้านแบบนี้บางทีนิยมใช้เป็นบ้านของดารา ภาพยนตร์ หรือนักแสดงซึ่งต้องเดินทางเสมอ   ก็จะซื้อรถขนาดใหญ่ปรับปรุงภายในให้เหมือนบ้าน คือ มีห้องนอน ห้องเตรียม อาหาร ห้องน้ำ เพียงแต่ละห้องมีขนาดเล็กเท่านั้น   สำหรับผู้ที่ชอบท่องเทียวทัศนาจร บริษัทท่องเที่ยวบางแห่งก็จะมีรถยนต์ให้ เช่า ซึ่งจะตกตกแต่งภายในเหมือนบ้านอยู่อาศัย ขับไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ ได้ บ้านลักษณะนี้เรียกว่า Motor Home นิยมใช้กันมากตามเมืองท่องเทียว และใช้มากในช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยว   ซึ่งผู้ใช้จะสามารถประหยัดค่าโรงแรกที่พักได้มาก เพราะไปกันได้หลายคน และใช้ได้ในช่วงเวลายาวนานอีกด้วย
 

8. บ้านที่แบ่งเวลาการพักอาศัย (Time-Share Homes)

บ้านแบบนี้ ตามชื่อก็บอกลักษณะให้ทราบว่ามีการแบ่งเวลาหรือหมุนเวียนกันใช้ ประโยชน์ในบ้านพักอาศัยดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการใช้เพื่อวัตถุ ประสงค์ในการพักผ่อน เช่น บ้านพัก หรือเรือนรับรอง ที่อยู่ตามชายหาด หรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยมีบุคคล บริษัท หรือโครงการจัดสรรเป็นเจ้าของ ใครต้องการไปพักผ่อนในช่วงไหน ก็ขอเช่าใช้ บ้านพักในช่วงนั้น ซึ่งจะมีการแบ่งเวลากันในระหว่างผู้ต้องการใช้ มีตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึง 6 เดือน ราคาค่าเช่าก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เป็นต้นว่า ระยะเวลาในการ เช่า ขนาดของบ้าน ทำเลที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดตนฤดูกาลของการเช่า พัก                                                                                                                                           

ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมบางแห่ง ซึ่งได้ขายไปแล้ว ก็ยังให้บริการในลักษณะของ Time Sharing ด้วย คือขณะหนึ่งขณะใดที่เจ้าของไม่ได้อยู่เอง ก็มอบหมายให้ ผู้จัดการคอนโดมิเนียมนั้นดูแลให้ โดยหาผู้ที่ต้องการพักผ่อนในช่วงดังกล่าว มาเช่าอยู่แทนซึ่งทำให้เจ้าของมีรายได้ในขณะที่ไม่ได้ใช้อยู่อาศัยเองเพียง แต่จ่ายค่าบริการจัดการดังกล่าวบ้างเท่านั้น นอกจากนั้นรูปแบบที่เคยมีการ ดำเนินการกัน ยังมีการขายสถานที่พักตากอากาศในลักษณะของคอนโด เช่น (Condo chain) กล่าวคือเจ้าของกิจการคอนโดเซน จะมีการจำหน่ายห้องกัดตากอากาศ ซึ่งตั้งอยู่ตามสถานที่ตากอากาศหลาย ๆ แหล่ง ผู้ที่ซื้อห้องชุด ณ สถานที่ตากอากาศแห่งหนึ่ง จะได้ใช้สิทธิในการ ใช้ห้องพักของโครงการเดียวกันซึ่งตั้งอยู่ ณ สถานที่ตากอากาศอื่นได้ฟรีปีละ กี่วัน ตามที่เจ้าของโครงการกำหนด อย่างไรก็ดีแนวคิดใน เรื่อง Time-Share Home เป็นเรื่องที่มีแง่มุมทางกฎหมายอยู่หลายเรื่อง ดัง นั้นผู้ที่ลงทุนในที่อยู่อาศัยลักษณะนี้ควรจะได้มีการปรึกษาผู้รู้ในด้าน กฎหมายอย่างละเอียดเสียก่อน

 

ที่มา  http://www.paul-esther.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538659652&Ntype=22